วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

ประวัติศาสตร์ประเทศฝรั่งเศส

พวกกอลเป็นชน เผ่าพื้นเมืองโบราณในสมัยโรมันเรืองอำนาจ หลังจากโรมล่มสลายลง พวกกอลกระจัดกระจายอยู่ในแผ่นดินใหญ่ของยุโรป ประวัติศาสตร์ท้าวความไปถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งอาณาจักรโรมันที่อยู่ใต้การปกครองของกอล ล่มสลายด้วยฝีมือของพวกแฟรงก์ในปี ค.ศ 498
'ไก่' สัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส อันเนื่องมาจากว่าไก่เป็นสัตว์เลี้ยงประจำครัวเรือนของชนเผ่ากอล และมีตำนานของพวกกอลที่เชื่อว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาเมื่อไก่ขัน

ฟรองก์
พวก ฟรองก์สามารถยึดแผ่นดินจากพวกกอลได้ และนำคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกเข้ามา พวกฟรองก์เจริญสูงสุดในปี ค.ศ. 771 เมื่อพระเจ้าชาร์เลอมาญ ครองราชสมบัติ และขยายอาณาเขตครองยุโรปแผ่นดินหลัก ไปจนจรดอาณาจักรมุสลิมของพวกสเปน พระเจ้าชาร์เลอมาญได้เป็นผู้ปกครองจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Holy Roman Empire) ในที่สุด

สมัยกลาง
หลังการตายของพระเจ้าชาร์เลอมาญ ฝรั่งเศสต้องประสบปัญหาการบุกรุกของเผ่าไวกิง และต้องอพยพลงใต้มายังเมืองนอร์มังดี ในปัจจุบัน ในช่วงนี้ บางครั้งฝรั่งเศสตกอยู่ใต้การปกครองของอังกฤษ

ราชวงศ์วาลัว (ค.ศ. 1328 - ค.ศ. 1589)
ราชวงศ์วาลัว (Valois Dynasty) มีกษัตริย์ปกครอง 14 พระองค์ เริ่มจากพระเจ้าฟิลิปที่ 6 ไปจนถึงพระเจ้าอองรีที่ 3
ในช่วงที่ แพ้สงครามกับอังกฤษ ก็เกิดตำนานของโยนออฟอาร์ค (ชาน ดาร์ก) (Joan of Arc) หญิงสาวที่อ้างว่าได้ยินเสียงของพระเจ้าให้มาปลดปล่อยฝรั่งเศส
ราชวงศ์วา ลัวได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่เกิดการแตกนิกายโปรเตสแตนต์ ออกจากนิกายโรมันคาทอลิก และส่งผลให้เกิดสงครามศาสนาในที่สุด

สงครามศาสนา
เริ่มตั้งแต่ยุคของพระ นางแคเทอรีน เดอ เมดิซี ที่ต้องถ่วงดุลอำนาจระหว่างพวกบูร์บง ซึ่งนับถือนิกายโปรเตสแตนต์ กับพวกกีส ซึ่งเป็นฝ่ายโรมันคาทอลิก
สงคราม ศาสนาจบลงด้วยการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอองรีแห่งกีส และพระเจ้าอองรีที่ 3 ในปี ค.ศ. 1589 พระเจ้าอองรีที่ 4ซึ่งเป็นโปรเตสแตนต์ ได้ขึ้นครองราชย์ และเริ่มต้นราชวงศ์บูร์บง

ราชวงศ์บูร์บง (ค.ศ. 1589 - ค.ศ. 1793)
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 (ค.ศ. 1643 - ค.ศ. 1715)
พระ เจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นกษัตริย์ที่ปรีชาสามารถ และรวมเอาภาพของประเทศเข้ากับตัวกษัตริย์ เป็นที่มาของคำพูดว่า
"L'État, c'est moi!" (I am the state!) ซึ่งหมายถึง "รัฐ คือตัวข้า"
เป็นผู้ เริ่มก่อสร้างพระราชวังแวร์ซาย (Versailles) และตรงกับสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชของไทย

พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 (ค.ศ. 1754 - ค.ศ. 1793)
พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ทรงอภิเษกสมรสกับพระนางมารี อองตัวเนต การใช้ชีวิตในราชสำนักอย่างฟุ่มเฟือยทำให้เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส ทั้งสองพระองค์โดนประหารด้วยกีโยตินในปี ค.ศ. 1793

การปฏิวัติ ฝรั่งเศส (ค.ศ. 1793 - ค.ศ. 1804
หลังจากนั้นเป็นการปกครองแบบ ประชาธิปไตย โดยเรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่ 1 ซึ่งมีเปลี่ยนรูปแบบการปกครองสามครั้ง ดังนี้

สมัชชาแห่งชาติ (ค.ศ. 1792 - ค.ศ. 1795)
หลังการปฏิวัติฝรั่งเศส ได้มีการร่างรัฐธรรมนูญ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งเลือกตั้งโดยชายชาวฝรั่งเศสที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งนับเป็นการใช้สิทธิ์ออกเสียงครั้งแรกของโลก ที่ไม่ได้แบ่งแยกชนชั้นที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีสมาชิกในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 183 คน
การปกครองนำโดยคณะกรรมการซึ่ง มีหลายชุด ที่มีชื่อเสียงคือ 'คณะกรรมาธิการความปลอดภัยแห่งสาธารณะ' และ 'คณะกรรมาธิการความมั่นคงทั่วไป'

การปกครองโดยคณะมนตรี (ค.ศ. 1795 - ค.ศ. 1799)
ช่วงที่การปกครองแบบใหม่ยังไม่เข้ารูปเข้ารอย มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาใหม่หลายครั้ง และสุดท้ายอำนาจการปกครองตกไปอยู่ในมือของคณะมนตรี ซึ่งประกอบด้วยผู้มีอำนาจ 5 คนคานอำนาจกันอยู่
นโปเลียน โบนาปาร์ต เกิดในปีค.ศ. 1769 ที่เกาะคอร์ซิกา ซึ่งอยู่ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศสในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นทหารในกองทัพฝรั่งเศสที่มีความสามารถ หลังจากทำศึกได้ชัยชนะต่ออิตาลี และออสเตรียในปีค.ศ. 1797 ทางรัฐบาลเกรงว่านโปเลียนจะเป็นอันตรายต่อ จึงถูกส่งไปยังอียิปต์ เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของอังกฤษในอินเดีย นโปเลียนแพ้สงครามแห่งแม่น้ำไนล์ ให้กับอังกฤษ และถูกเรียกตัวกลับในปีค.ศ. 1799

การปกครองโดยคณะกงสุล (ค.ศ. 1799 - ค.ศ. 1804)
ค.ศ. 1799 นายพลนโปเลียน โบนาปาร์ต ยึดอำนาจจากคณะมนตรี และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกงสุลคนแรกของสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ปกครองที่มีอำนาจสูงสุด นโปเลียนดำรงตำแหน่งกงสุลในปี ค.ศ. 1799 - ค.ศ. 1803 ก่อนที่นโปเลียนจะสถาปนาตนเองขึ้นเป็นจักรพรรดิในเวลาต่อมา
หลัง จากนั้นฝรั่งเศสต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองอีกหลายครั้ง สลับกันระหว่างแบบกษัตริย์ กับแบบสาธารณรัฐ จนกระทั่งปัจจุบัน

จักรวรรดิ ที่ 1 (ค.ศ. 1804 - ค.ศ. 1815)
ในช่วงจักรวรรดิที่ 1 มีเหตุการณ์สำคัญดังต่อไปนี้
* ค.ศ. 1804 นโปเลียนสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดิ และนับเริ่มยุคของจักรวรรดิฝรั่งเศสตั้งแต่นั้น
* ค.ศ. 1805 ความพยายามของฝรั่งเศสร่วมกับสเปนในสงครามทางทะเลเพื่อล้มอังกฤษล้มเหลว ลอร์ดเนลสันได้ชัยชนะที่แหลมทราฟัลการ์ในสเปน (สงครามที่ทราฟัลการ์) และส่งผลให้อังกฤษได้เป็นเจ้าทะเลในช่วงศตวรรษที่ 18 นโปเลียนจึงเบนความสนใจมายังภาคพื้นทวีปแทน
* ค.ศ. 1805 นโปเลียนได้ชัยชนะต่อออสเตรียซึ่งมีรัสเซียหนุนหลัง ในสงครามที่ ออสเตอร์ลิตซ์
* ค.ศ. 1812 นโปเลียนแพ้ในการบุกรุกเข้าไปในพรมแดนรัสเซียเนื่องจากเผชิญกับอากาศที่หนาว เหน็บ ทหารฝรั่งเศสเหลือเพียง 1 หมื่นคน จาก 6 แสนคนในตอนแรก
* ค.ศ. 1813 ชาติต่างๆ ในยุโรปรวมตัวกันต่อสู้กับฝรั่งเศส ในสงครามนานาชาติ ที่เมืองไลปซิก ฝ่ายพันธมิตรชนะ และทำให้ดินแดนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไรน์เป็นของประเทศเยอรมนี
* ค.ศ. 1814 ประเทศอังกฤษ ปรัสเซีย รัสเซีย และออสเตรีย รวมกำลังกันยึดปารีสได้ในเดือนมีนาคม นโปเลียนถูกบังคับให้สละบัลลังก์ และถูกเนรเทศไปยังเกาะเอลบา (Elba) ในทะเลเมดิเตอเรเนียน นับเป็นการสิ้นสุดยุคจักรวรรดิที่ 1

ยุคราชวงศ์ฟื้นฟู
หลังจากเอา ชนะนโปเลียนได้ ฝ่ายพันธมิตรได้ฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง ขึ้นมาใหม่ โดยมีกษัตริย์สององค์คือ
* พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ค.ศ. 1814 - ค.ศ. 1824
* พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ค.ศ. 1824 - ค.ศ. 1830
และหลุยส์-ฟิลิปที่ 1 ได้ตั้งราชวงศ์ออร์เลออง ซึ่งมีกษัตริย์เพียงพระองค์เดียว จนถึงการปฏิวัติ ค.ศ. 1948 ในฝรั่งเศส
* หลุยส์-ฟิลิปที่ 1 ค.ศ. 1830 - ค.ศ. 1848
ใน สมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 (Louis XVIII) ปี ค.ศ. 1815 นโปเลียนได้หลบหนีออกมาจากเกาะเอลบา และเผชิญหน้ากับกองทัพที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18ส่งมา นโปเลียนเดินเข้าหาเหล่าทหารและพูดว่า "ทหารคนไหนต้องการยิงจักรพรรดิของท่าน เชิญยิงได้เลย" ("If any man would like to shoot his emperor, he may do so") ทหารทุกคนหันมาอยู่ข้างนโปเลียนและนโปเลียนได้ยึดฝรั่งเศสเป็นเวลา 100 วัน

ยุค แห่งเวลลิงตัน (Duke of Wellington) (อังกฤษ) และนายพลบลือเชอร์ (Gebhard Leberecht von Blücher) (เยอรมัน) ได้เอาชนะนโปเลียนในการรบที่วอเตอร์ลู (Battle of Waterloo) ในเบลเยียม คืนอำนาจให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และเนรเทศนโปเลียนไปยังเกาะแซงเตแลน (เซนต์เฮเลนา) นอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันตก นโปเลียนเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1821

สาธารณรัฐ ที่ 2 (ค.ศ. 1848 - ค.ศ. 1852)
หลุยส์ นโปเลียน (Louis Napoleon) หลานลุงของนโปเลียน ซึ่งหลบหนีไปยังอังกฤษในปี

ค.ศ. 1946 ได้กลับมารับเลือกตั้ง และได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1948
ในปี ค.ศ. 1952 เขาสถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 และเริ่มยุคจักรวรรดิที่สอง

จักรวรรดิที่ 2 (ค.ศ. 1852 - ค.ศ. 1870)
จักร พรรดินโปเลียนที่ 3 แพ้สงคราม ให้แก่นายกรัฐมนตรีบิสมาร์ค (Otto von Bismarck) ของเยอรมัน และถูกล้มล้างจากคณะปฎิวัติ หลุยส์ นโปเลียน ตายในปี ค.ศ. 1973 ที่ประเทศอังกฤษ

สาธารณรัฐที่ 3 (ค.ศ. 1870 - ค.ศ. 1940)
เป็น ระบอบสาธารณรัฐที่อยู่ได้นานถึง 70 ปีจนกระทั่งการบุกของเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2

ฝรั่งเศสยุค สงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ. 1940 - ค.ศ. 1946)
หลังจากถูกนาซีเยอรมันยึด กรุงปารีสได้ นาซีได้ตั้งรัฐบาลหุ่นฝรั่งเศสขึ้นที่เมืองวิชี รัฐบาลในช่วงนี้จึงเรียกว่า วิชีฝรั่งเศส อีกด้านหนึ่งนายพลชาลส์ เดอ โกล ได้ตั้งแนวร่วมปลดปล่อยฝรั่งเศส ที่กรุงลอนดอนเพื่อต่อต้านนาซีและรัฐบาลวิชีฝรั่งเศส ในขณะนั้น

สาธารณรัฐ ที่ 4 (ค.ศ. 1946 - ค.ศ. 1958)
รัฐบาลใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่สองมี บทบาทในสงครามอินโดจีนครั้งแรก และพ่ายแพ้ต่อเวียตนามเหนือที่นำโดยโฮจิมินห์ โดยเฉพาะการศึกที่เดียนเบียนฟู รัฐบาลในช่วงนี้ไม่มีเสถียรภาพ และเหตุการณ์สุกงอมเมื่อปี 1958 ฝรั่งเศสแพ้สงครามที่แอลจีเรีย ปลดปล่อยอิสรภาพ นายพลชาลส์ เดอ โกลจึงยึดอำนาจและร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นสาธารณรัฐที่ 5

สาธารณรัฐ ที่ 5 (ค.ศ. 1958 - ปัจจุบัน)
นายพลชาร์ล เดอ โกลใช้ระบบประธานาธิบดีที่เลือกตั้งจากประชาชนโดยตรง แทนระบบรัฐสภาแบบเดิม ซึ่งคงอยู่มาถึงปัจจุบัน สาธารณรัฐที่ 5 ของฝรั่งเศสมีประธานาธิบดีมาทั้งหมด 5 คนดังนี้
* นายพลชาลส์ เดอ โกล ค.ศ. 1958 - ค.ศ. 1969
* ชอร์ช ปงปีดู ค.ศ. 1969 - ค.ศ. 1974
* วาเลรี ชีสการ์ แดสแตง ค.ศ. 1974 - ค.ศ. 1981
* ฟรองซัว มีแตรอง ค.ศ. 1981 - ค.ศ. 1995
* ชาก ชีรัก ค.ศ. 1995 - ปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น